บริษัทเหล่านี้รู้เรื่องราวของคุณมากเพียงใด
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook, Amazon รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ที่ทำกำไรจากการโฆษณาออนไลน์ จะให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อแลกกับการเก็บข้อมูลของผู้ใช้มาศึกษาเพื่อพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงใช้เพื่อปรับแต่งรูปแบบการโฆษณาของตนอยู่เสมอ ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายขึ้น ในขณะที่บริษัทสามารถทำรายได้จากการนำเสนอโฆษณาออนไลน์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็ควรคำนึงว่าความสะดวกที่คุณได้รับมานั้นต้องแลกกับอะไรบ้าง
ข้อตกลงที่แฝงความไม่ปลอดภัย
ในปี 2015 โลกเพิ่งจะตื่นตัวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว เมื่อพบว่า Samsung เคยกำหนดข้อตกลงของผู้ใช้ในการยินยอมให้สมาร์ตทีวีสามารถแอบฟังและบันทึกเสียงจากสภาพแวดล้อม รวมถึงบทสนทนาส่วนตัวของคุณและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปขายต่อให้กับบุคคลที่สาม ส่งผลให้หลายคนมองว่า นี่ถือเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลและสร้างความไม่ไว้วางใจให้กับผู้บริโภคอย่างมาก ถึงแม้การบันทึกเสียงนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตสมาร์ตทีวีและคู่ค้าสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ที่ดีขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใช้ก็ตาม
ทุกกิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคุณ อาจมีระบบคอยบันทึกข้อมูลของคุณอยู่ตลอด บริษัทอย่าง Google และ Facebook สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณตั้งแต่ คนไหนคือเพื่อนคุณ สิ่งที่คุณสนใจ เวลาที่คุณว่าง คนที่คุณส่องอยู่ อุปกรณ์ที่คุณใช้ ความสามารถในการใช้จ่ายสินค้าบริการ สถานที่ที่คุณไป เพลงที่คุณฟัง เกมที่คุณเล่น คำถามต่าง ๆ นานาที่คุณถามในระบบ หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่ถูกลบทิ้งไปแล้ว ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณด้วยว่า คุณยินยอมให้บริษัทเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลของคุณได้มากน้อยแค่ไหน
(คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลและกิจกรรมของคุณโดยใช้ Google Takeout ซึ่งเป็นบริการให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลที่ Google สำรองไว้ ส่วน Google Timeline และ My Activities จะแสดงข้อมูลบางส่วนในรูปแบบที่อ่านง่าย แต่ถ้าหากต้องการดูข้อมูลของคุณที่ Facebook รวบรวมไว้ คลิกที่นี่ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ต่าง ๆ อาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณ)
ออกแบบนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เหมาะกับคุณ
ตอนนี้รัฐบาลเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการควบคุมการเก็บข้อมูลมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้เองก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้แพลตฟอร์มหรือหน่วยงานอย่าง Facebook และ Google เข้าถึง รวบรวม และนำข้อมูลของตัวเองไปใช้ได้หรือไม่ ด้วยการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ดังนั้น เราจึงควรอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลข้อใดบ้าง
ยิ่งคุณได้รับประโยชน์จากบริการออนไลน์มากเท่าไหร่ คนอื่นก็มีแนวโน้มที่จะหาประโยชน์จากข้อมูลของคุณมากเท่านั้น ดังนั้น คุณควรคำนึงว่าเราพร้อมที่จะสละข้อมูลส่วนตัวมากน้อยแค่ไหนเพื่อแลกกับความสะดวกสบายในการใช้งานบริการต่าง ๆ ที่ไม่เสียค่าบริการบนโลกออนไลน์