Smart City ถอดบทเรียนความสำเร็จ ยกระดับคุณภาพชีวิต

May 7, 2019

Smart City ถอดบทเรียนความสำเร็จ ยกระดับคุณภาพชีวิต

           เมืองในอุดมคติของคุณเป็นอย่างไร? สารพัดคำตอบที่ได้ย่อมแตกต่างกันไปแต่สิ่งหนึ่งที่เป็นรากฐานสำคัญอันนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นคือโครงสร้างของเมืองที่มีระเบียบแบบแผน ครอบคลุมทั้งสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ที่ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และนี่คือที่มาของ “สมาร์ทซิตี้”

           สมาร์ทซิตี้ หรือเมืองอัจฉริยะคือ การออกแบบโครงสร้างเมืองให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล เปิดโอกาสให้คนทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงบริการได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับสภาพสังคมมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นระบบการขนส่ง อินเตอร์เน็ต การศึกษา หรือการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดต้นทุนและลดการบริโภคของประชากร อันนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
“เหวยฟาง” โมเดลแห่งความสำเร็จ

           หากพูดถึง “เมืองอัจฉริยะ” จีนถือเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยความกระตือรือร้นระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชนได้ผลักดันสมาร์ทซิตี้จนสำเร็จแล้วที่ “เหวยฟาง” เมืองอัจฉริยะต้นแบบในมณฑลซานตง ที่นำร่องเอาระบบนี้มาพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 และเป็นเมืองแรกของจีนที่ใช้ e–ID บัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Weifang V ซึ่งรวบรวมบริการต่าง ๆ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น การศึกษา การขนส่ง และหน่วยงานราชการ เป็นต้น ต่อมาได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Cloud Pay บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ รวมทั้ง Smart City Pass ที่รวบรวมข้อมูลสำคัญอย่างเลขบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตรประกันสุขภาพ และบัตรโดยสาร ทำให้ไม่ต้องพกบัตรหลายใบหรือเงินสด ก็สามารถชำระค่าบริการ ต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชั่นเดียว

“จีน” เดินหน้าปักธงอนาคต
           จากความสำเร็จของเหวยฟาง บริษัท JD.com ผู้ให้บริการ E-Commerce ของจีน ได้เปิดตัวแบรนด์ JD iCity โดยนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มาพัฒนาเมืองให้แก่รัฐบาลจีน เพื่อแก้ปัญหาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมวลชน สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ขณะนี้ได้ขยายขอบเขตการให้บริการไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนกว่า 30 เมืองแล้ว เช่น เทียนจิน หนานจิน ฝูโจว และเฉิงตู นวัตกรรมที่จะได้เห็นในเมืองเหล่านี้ก็คือ ร้านค้าอัจฉริยะที่รองรับการจ่ายเงินออนไลน์, IoT, ระบบ Intelligent Logistics เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น

“ภูเก็ต สมาร์ทซิตี้” ก้าวแรกสู่เมืองอัจฉริยะ
           ภูเก็ต สมาร์ทซิตี้ ผลผลิตจากโครงการส่งเสริมพื้นที่พิเศษสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ดำเนินการโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล Thailand 4.0 ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความพร้อมด้านทรัพยากร ประกอบกับมีประชากรต่ำกว่าหนึ่งล้านคน จึงมีความคล่องตัวในการพัฒนาสูง ขณะเดียวกันในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายล้านคน ซึ่งนี่คือจุดแข็งที่สมาร์ตซิตี้จะนำมาปรับใช้เพื่อยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสะดวกสบายและปลอดภัยกับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เช่น การติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะSmart Sensor ที่ผสมผสาน IoT เพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ สภาพน้ำทะเล โดยเมื่อพบความผิดปกติ ระบบจะส่งข้อมูลไปยังส่วนกลางทันที ทำให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที มีระบบรายงานการจราจรแบบเรียลไทม์ หรือการใช้ CCTV ร่วมกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า เพื่อการตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิด
           จากความสำเร็จของสมาร์ตซิตี้ในหลาย ๆ เมืองทั่วโลกนั้น หัวใจสำคัญคือการเข้าใจปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สมาร์ตซิตี้จะสำเร็จไม่ได้เลยถ้าปราศจากความร่วมมือจากประชาชน เมืองอัจฉริยะอาจกลายเป็นเมืองในฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง และสิ่งที่ท้าทายไปกว่านั้นก็คือการพัฒนาเมืองอย่างไรให้ยั่งยืนจนไปถึงคนรุ่นหลัง ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันขบคิดต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >> IoT (Internet of Things) ขยับเข้ามาใกล้กว่าที่คิด ดีกับชีวิตเราอย่างไร?

Share this article

Subscribe to InnoHub!

Stay updated and inspired

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ