Emotional AI เข้าใจลูกค้า…ใช้ในธุรกิจไหนก็รุ่ง
นับวันขอบเขตความสามารถของ AI (Artificial Intelligence) เพิ่มมากขึ้นเกินความคาดหมายของใครๆ หลายคน จนตอนนี้แม้แต่ความรู้สึกอันซับซ้อนอย่างอารมณ์โกรธ เศร้า ดีใจ AI ก็สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ จนสามารถนำมาพัฒนาระบบต่างๆ ได้มากมาย
ซึ่งวิธีการของระบบ AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การวิเคราะห์ใบหน้า (Face Recognition) ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำจริงโดยสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Affectiva ใช้ระบบอัลกอริทึมที่มีฐานข้อมูลใบหน้ากว่า 7.5 ล้านหน้า จาก 87 ประเทศ เพื่อวิเคราะห์อารมณ์ที่ซับซ้อนหลากหลายมิติ และสามารถพัฒนาให้เที่ยงตรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยระบบ Deep Learning
นอกจากนั้นยังมีระบบวิเคราะห์เสียง (Voice Recognition) ที่มักใช้ควบคู่ไปกับระบบวิเคราะห์ระดับภาษาที่เรียกว่า NLP (Natural Language Processing) ที่สามารถบอกอารมณ์ ผ่านโทนเสียงและบริบทของภาษาที่ใช้ในการสื่อสารได้ ซึ่ง 2 ระบบนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับระบบปฏิบัติการผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น Siri หรือ Google Assistance เพื่อตรวจจับอารมณ์ของผู้ใช้บริการ และนำมาพัฒนาให้ AI สามารถโต้ตอบกลับได้เหมือนกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น AI อ่านอารมณ์ ยังสามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อย่างเช่นด้านการศึกษา มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์พัฒนาแว่นตาที่สามารถอ่านอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้เรียกว่า Empower Me สำหรับผู้ป่วยออทิสติกที่มีปัญหาด้านการเข้าสังคม สวมใส่แล้วจะช่วยวิเคราะห์อารมณ์ของคนรอบข้าง ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจอารมณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถนำมาพัฒนาด้านความปลอยภัยในการขับขี่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จาก MIT กำลังพัฒนาระบบอ่านอารมณ์คนขับรถ ให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดความโกรธหรือง่วงนอนเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ หรือในอุตสาหกรรมความบันเทิง สร้างเกมแนวจิตวิทยา ที่มีระบบ AI ตรวจจับความรู้สึกจากใบหน้าผู้เล่นแล้วจึงปรับเกมตามอารมณ์ผู้เล่น
นี่คือหลักฐานว่า AI กลายเป็นระบบที่ละเอียดอ่อน สามารถวิเคราะห์อารมณ์และปรับการทำงานให้ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ ซึ่งต่อไป AI อาจไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแวดวงวิทยาศาสตร์ แต่สามารถใช้กับศิลปะและงานบริการต่างๆ ได้ดีไม่แพ้กัน…ไม่แน่ ต่อไป AI อาจเข้าใจเราได้ดีกว่าคนใกล้ตัวเราก็ได้!!
อ่านเพิ่มเติม >> ส่องกล้องมอง AI ในภาคอุตสาหกรรม ปี 2019