ในโลกปัจจุบันที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนเทรนด์การทำงานไปสู่รูปแบบการทำงานระยะไกล ผู้คนจากหลายสายงานได้มองเห็นความเป็นไปได้ของการทำงานจากที่ไหนก็ได้ และผันตัวเป็น Digital Nomad กันมากขึ้น บางประเทศในยุโรป เช่น นอร์เวย์ มอลตา และไซปรัส ยังได้มีนโยบายการออกวีซ่าให้กับกลุ่มคนเหล่านี้โดยเฉพาะอีกด้วย คนกลุ่มนี้คือใคร มีโอกาสและความท้าทายอะไรบ้าง มาทำความรู้จักไปกับ InnoHub ได้เลย

Digital Nomad คืออะไร

คำว่า Nomad หมายถึงคนที่ร่อนเร่พเนจรไปตามที่ต่าง ๆ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง Digital Nomad จึงสื่อถึงบุคคลที่ทำงานไปพร้อม ๆ กับการใช้ชีวิตแบบพเนจรโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญนั่นเอง นั่นหมายความว่าเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและแล็ปท็อปสักเครื่อง บุคคลเหล่านี้ก็สามารถทำงานจากที่ไหนและในเวลาใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ชายทะเล หรือเมืองในต่างประเทศ

นิยามของ Digital Nomad ไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่สายงานฟรีแลนซ์เท่านั้น พนักงานประจำเองก็สามารถเป็น Digital Nomad ได้เช่นกันตราบใดที่สามารถทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ผลประโยชน์สำคัญจากการทำงานทางไกลในรูปแบบนี้ นอกจากความยืดหยุ่นของการทำงานที่คุณสามารถเลือกสถานที่ เวลาทำงานของคุณได้เองแล้วนั้น คุณยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตโดยการเดินทางไปยังจังหวัดหรือประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำได้อีกด้วย

การเป็น Digital Nomad จึงมอบอิสระทั้งในด้านเวลา สถานที่ และวิถีชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอิสระเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบและวินัยที่มากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการเงินที่ยุ่งยากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับค่าตอบแทน การจ่ายภาษี การจัดสรรเงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทคที่สะดวกและครบวงจรจึงเป็นสิ่งที่เหล่าพนักงานพเนจรในยุคดิจิทัลจะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว

ฟินเทคที่เหมาะสำหรับ Digital Nomad

1. ธนาคารออนไลน์

บัญชีออนไลน์นับเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ควรมีไว้เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ และใช้จ่ายได้อย่างสะดวกผ่านทางเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ บัญชีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเหล่า Digital Normad นั้นอาจเป็นบัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงิน หรือ Multi-Currency Account เพื่อช่วยลดความซับซ้อนเมื่อต้องทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ในปัจจุบันมีบริการจากบริษัทฟินเทคมากมายที่ตอบโจทย์นี้ ยกตัวอย่างเช่น Revolut N26 และ Monese ที่ผู้ใช้งานสามารถเปิดบัญชีออนไลน์สำเร็จรูปเพื่อใช้จ่ายในต่างแดนได้อย่างสะดวกสบาย และไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมเมื่อถอนเงินจากตู้ ATM อีกด้วย

2. บริการโอนเงินระหว่างประเทศ

อีกหนึ่งบริการสำคัญของเหล่าพนักงานนักเดินทางทั้งหลายคือบริการโอนเงินระหว่างประเทศ ในขณะที่ธนาคารหรือบริษัทบางแห่งอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมราคาแพงเมื่อลูกค้าต้องการโอนเงินไปยังต่างประเทศ บริษัทฟินเทคอีกจำนวนมากได้เสนอทางเลือกที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น Paypal และ Wise

3. แอปพลิเคชันบริหารการเงินส่วนบุคคล

เมื่อต้องเดินทางอยู่ตลอด การบริหารจัดการเงินส่วนตัวอาจไม่ง่ายเหมือนอย่างเคย เพราะ Digital Nomad  จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ที่พักอาศัย การจ่ายภาษี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันทางการเงินที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ เช่น PocketGuard ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยติดตามพฤติกรรมการใช้จ่าย แจ้งเตือนรอบบิลที่ต้องชำระ เก็บข้อมูลของกระแสเงินที่ไหลเข้าออกจากบัญชี และช่วยออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. แอปพลิเคชันสำหรับธุรกรรมทางการบัญชี

สำหรับ Digital Nomad ที่เป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งเรียกได้ว่ามีบทบาทเป็นทั้งนายจ้างและลูกจ้างในธุรกิจ แพลตฟอร์มที่ช่วยดูแลการบัญชีจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ แอปพลิเคชันอย่าง Quickbooks และ Xero ถูกออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือนักบัญชีทั้งหลายทำงานได้ง่ายขึ้น โดยมีฟังก์ชั่นอย่างการติดตามความเคลื่อนไหวของบัญชี จัดการรายชื่อติดต่อของลูกค้า ส่งใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยจัดระเบียบการเงินอย่างชาญฉลาด

5. บัตรเครดิตและบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เพื่อขจัดปัญหาความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ธนาคารรวมถึงบริษัทฟินเทคหลายแห่งจึงได้เสนอบัตรเครดิตที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้จ่ายในต่างประเทศและประหยัดค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเงินตรา ยกตัวอย่าง เช่น Curve ที่ได้เสนอทางออกโดยการรวมบัตรเครดิตทั้งหมดของผู้ใช้งานไว้ในบัตรของ Curve เพียงใบเดียวที่ใช้งานร่วมกับกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยยึดตามอัตราแลกเปลี่ยนของ MasterCard เป็นต้น

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของบริการทางการเงินออนไลน์ที่ InnoHub รวบรวมมาเท่านั้น เทรนด์ของ Digital Nomad มีแนวโน้มแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแถบยุโรปและอเมริกา อีกทั้งประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในจุดหมายอันดับต้น ๆ ของเหล่า Digital Nomad ทั่วโลก แม้ว่าสำหรับคนไทยแล้วกระแสดังกล่าวอาจเพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้นไม่นาน แต่สิ่งที่มาพร้อมกับเทรนด์การทำงานแนวใหม่นี้คือโอกาสมหาศาลทั้งสำหรับเหล่าคนทำงานเองและบริษัทผู้ให้บริการฟินเทคต่าง ๆ ที่จะผุดไอเดียบริการใหม่ ๆ เพื่อมาอำนวยความสะดวกกลุ่มคนที่กำลังเติบโตและขยายจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน เพื่อให้พวกเขาสามารถท่องโลกไปพร้อม ๆ กับบริหารการเงินด้วยตัวเองได้แบบไร้กังวลอย่างแท้จริง