IoTs (Internet of Things) ขยับเข้ามาใกล้กว่าที่คิด
ดีกับชีวิตเราอย่างไร?
IoT (Internet of Things) เป็นเทคโนโลยีที่ยังคงได้รับความสนใจในช่วงนี้ คือการที่อุปกรณ์ต่างๆ ถูกควบคุมเชื่อมโยงสู่โลกอินเทอร์เน็ตให้มนุษย์สั่งการและควบคุมได้ อาทิ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร อาคาร บ้านเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน เช่น สั่งเปิดไฟฟ้าภายในบ้านด้วยอุปกรณ์มือถือผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีผลดีต่ออุตสาหกรรมในการลดต้นทุน เพราะระบบ IoT ที่ฝังในอุปกรณ์ไอทีจะจัดแจงส่งและแชร์ข้อมูลถึงกันได้เอง ปัจจุบันโครงการ IoT ส่วนใหญ่ต้องการสร้างระบบ Automation และการแลกเปลี่ยนข้อมูลของเทคโนโลยีการผลิต IDG (ผู้ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม) ชี้ว่าบริษัททั่วโลกมีแผนลงทุนด้าน IoT จริงจัง โดยพุ่งเป้าไปที่ระบบ Cloud และความปลอดภัยของข้อมูล รองลงมาคือ Hardware ในอนาคต IoT จะเข้ามาสร้างรากฐานของอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ทำงานควบคู่กับ AI ได้เต็มรูปแบบนั่นเอง
รายงานของ General Electric คาดการณ์ว่าในปี 2020 ดาต้าบนระบบเน็ตเวิร์คของโลกกว่า 40% จะมาจากอุปกรณ์ดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันเอง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่าง IoT และ Blockchain มีการนำ Blockchain มาป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น เหตุการณ์เว็บไซต์ล่มกว่า 80 เว็บไซต์เมื่อเดือนตุลาคม 2016 ทำให้การจราจรทางอินเทอร์เน็ตเน็ตเวิร์คทั่วสหรัฐอเมริกาชะงักลง โดยระบบ Blockchain จะช่วยติดตามและกระจายอัพเดตซอฟต์แวร์ทางความปลอดภัยให้แก่ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ต่างๆ
IoT ยังช่วยให้ระบบ AI ฉลาดขึ้น อย่างคำพูดที่ว่า “หาก AI คือสมอง IoT ก็คือร่างกาย” ตัวอย่าง โปรเจ็คต์ ‘บ้านอัจฉริยะ’ หรือ ‘Smart Home Solution’ ของ Nest ซึ่งใช้ IoT มาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ทำให้ควบคุมอุณหภูมิจากการประมวลข้อมูลสภาพอากาศทั้งภายในและนอกอาคาร จากนั้นจึงปรับอุณหภูมิภายในให้เหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าล่วงหน้าได้ ครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือระบบรักษาความปลอดภัย ตลอดทั้งหลังเลยทีเดียว
ในไทยมีการนำ IoT เข้าไปใช้งานแล้วเรียบร้อย เช่น บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งได้นำเครือข่าย Narrow Band-IoT เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการสร้าง IoT Smart City ที่มีการใช้งานจริงแล้วให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการ เช่น Mobike, Smart Lighting, Smart Tracking รวมถึงการนำ Smart Home และ Security Platform มาต่อยอดพัฒนา Home Application อีกด้วย โดยนำร่องให้บริการแล้วใน 15 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ก้าวต่อไปในอนาคต เชื่อว่าหาก IoT ได้กลายมาเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานทั้งในฝั่งของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ นวัตกรรมถัดไปของ IoT จะมีความสามารถใหม่ๆ ครอบคลุม อาทิ ความปลอดภัยจะถูกฝังมาในอุปกรณ์และระบบ IoT แต่แรก, อุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้ระบบ IoT จะทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น ภายใต้ Ecosystem จะมีการใช้ 5G และ Network ที่มีความปลอดภัย ผสานกันเพื่อตอบโจทย์ IoT ที่สำคัญเชื่อกันว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบอุปกรณ์ให้รองรับกับ IoT โดยเฉพาะ
และไม่นานเกินรอแน่นอน เราคงจะได้เห็นชีวิตประจำวันของมนุษย์ที่ขับเคลื่อนและรายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี IoT อย่างสมบูรณ์แบบ และคอยพบกับกิจกรรมของ Bangkok Bank InnoHub Season 2 ไม่แน่ว่า Startup ที่เข้ารอบสุดท้ายของ Season 2 จะกลับมาด้วยเทคโนโลยี IoT ที่ให้คุณ และธุรกิจของคุณ Seamless มากขึ้นก็เป็นได้
#BangkokBank #BangkokBankInnoHubSeason2 #InspiringChange #UnleashthePotential