Robo-Advisor: เข้าถึงการลงทุนง่ายๆด้วยปลายนิ้ว
Robo-advisor อาจเป็นคำที่ชวนให้นึกถึง หุ่นยนต์ที่ปรึกษาที่มาช่วยเรื่องการแนะนำการลงทุน แต่ถ้าจะอธิบายให้เห็นเห็นภาพอย่างชัดเจนขึ้น Robo-Advisor คือบริการวางแผนทางการเงินแบบอัตโนมัติ ที่ใช้ข้อมูลของนักลงทุนโดยอาศัยอัลกอริทึมซึ่งได้จากแนวคิดของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในการทำงาน ให้คำแนะนำและช่วยลงทุนอัติโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้บนมือถือของคุณเอง
ส่วนจุดเด่นที่ทำให้ Robo-Advisor ได้รับความนิยมในต่างประเทศ คือ ใช้เงินลงทุนแรกเริ่มจำนวนไม่มาก เก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการรายปีต่ำและสามารถแนะนำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Robo-Advisor ยังเป็นอีก FinTech ที่น่าจับตามองของภาคอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก เพราะสถาบันการเงินสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อดูแลลูกค้าบุคคลทั่วไป (กลุ่ม Mass และ Mass Affluent) ที่ไม่สามารถเข้าถึงคำปรึกษาด้านการออมและการลงทุนแบบตัวต่อตัวได้ Robo-Advisor สามารถมาเติมเต็มข้อจำกัดด้านบริการของสถาบันทางการเงินได้และให้คำแนะนำได้เหมาะสมกับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน Robo-Advisor ถือเป็นเทคโนโลยี FinTech ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างและมีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลายในระดับโลก จากสถิติปี พ.ศ. 2560 Robo-Advisor ที่เปิดให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร จีน อินเดีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย มีจำนวนรวมถึง 361 แอปพลิเคชั่น เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ Robo-Advisor มีมูลค่ารวมสูงถึง 292,809 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันในประเทศไทยของเราก็เริ่มมีบริการ Robo-Advisor ให้ได้ดาวน์โหลดมาใช้งานกันบ้างแล้ว โดยเน้นการลงทุนแบบอัติโนมัติซึ่งปรับแต่งไว้ตามข้อมูลของผู้ใช้งานเองและจัดการธุรกรรมโดยผูกกับบัญชี Mobile Banking เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบาย ซึ่งถึงแม้จะยังมีทางเลือกไม่มาก แต่ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่สนใจที่จะบริหารจัดการความมั่งคั่งมากขึ้น ฝั่งผู้ให้บริการด้าน FinTech ก็ย่อมจะต้องปรับตัวตาม ไม่แน่ว่าใน 3 -4 ปีข้างหน้าอาจมี FinTech Startup สัญชาติไทยที่ผลิต Robo-Advisor ออกมาให้บริการเพิ่มขึ้นจนไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ ในระดับโลกก็เป็นได้