ยุคทองของ Affiliate Marketing โอกาสที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

มกราคม 13, 2025

ในยุคที่มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างมหาศาลแบบในปัจจุบัน การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate Marketing) นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นจนส่งผลให้มีมูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 18,512.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน พ.ศ. 2567 และจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 8.00% ตั้งแต่ พ.ศ. 2567 ถึง พ.ศ. 2574 โดย 44% ของรายได้ทั้งหมดจากการทำการตลาดแบบพันธมิตรเป็นของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งประเทศไทยและประเทศเวียดนามถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุด โดยคาดว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยจะเติบโตถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน พ.ศ. 2568

Affiliate Marketing คืออะไร?

การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate Marketing) คือ รูปแบบการโฆษณาที่ทางแบรนด์สินค้าจะร่วมมือกับผู้สร้างสรรค์ (Creator) หรือ ผู้มีอิทธิผลกับผู้คนจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย (Influencer) เพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยจะมีการตกลงกันว่า Creator หรือ Influencer จะต้องลงโปรโมตสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง และเมื่อมีคนซื้อสินค้าผ่านลิงก์ส่งเสริมการขายของ Creator หรือ Influencer ทางแบรนด์ก็จะต้องจ่ายค่านายหน้า (Commission) ที่กำหนดไว้เป็นค่าตอบแทน

การตลาดแบบพันธมิตรไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังมีประโยชน์หลากหลายที่ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok หรือแม้แต่กระทั่งแพลตฟอร์มวิดีโอยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง YouTube ก็ต่างกระโดดเข้ามาร่วมแข่งขันในตลาดนี้เช่นกัน มาดูกันว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากการตลาดแบบพันธมิตรอย่างไรกันบ้าง

  1. Shopee

ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีจำนวนเข้าชมมากถึง 73.4 ล้านครั้ง Shopee เน้นใช้การไลฟ์สด Shopee Live และคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอสั้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ส่งผลให้ความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Creator หรือ Influencer มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ขายทั่วไป

  1. Lazada

Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนเข้าชมกว่า 29.2 ล้านครั้ง และมีเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมมากกว่า 4,000 เครือข่าย ทั่วทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้การันตีได้ว่า สินค้าของผู้ขายจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมาก โดยผู้ขายสามารถเลือกทำงานกับพันธมิตรได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Creator, Influencer, แอปพลิเคชันเงินคืน (Cashback),  แอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคา หรือ เครือข่ายโฆษณา เป็นต้น

  1. TikTok

TikTok ได้ก้าวขึ้นเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ด้านการชอปปิงออนไลน์ในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นชาวไทย เนื่องด้วยโมเดล “Shoppertainment” ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการผสมผสาน “Shopping” หรือการชอปปิง เข้ากับ “Entertainment” หรือความบันเทิง ผ่านการไลฟ์สตรีมสด และวิดีโอที่กลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานจริงเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง (User-Generated Videos) ส่งผลให้ผู้ขายสามารถร่วมมือกับ Creator บน TikTok ในการแชร์ลิงก์พันธมิตร (Affiliate) รวมถึงรหัสโปรโมชันในวิดีโอได้

  1. YouTube

ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 44.2 ล้านคนในประเทศไทย YouTube ถือเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การที่ YouTube ร่วมมือกับ Shopee ในประเทศไทย จึงนับเป็นวิวัฒนาการครั้งสำคัญในการตลาดแบบพันธมิตร โดยความร่วมมือในครั้งนี้ส่งผลให้ Creator บน YouTube สามารถแท็กสินค้าจาก Shopee ลงในวิดีโอ, Shorts และ ไลฟ์สตรีมบน YouTube ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้การรับชมคอนเทนต์และการซื้อสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

นอกจากการใช้งานการตลาดแบบพันธมิตรของ 4 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่ได้กล่าวไปแล้ว เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI เองก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการทำให้เกิดการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Hyper-Personalized Marketing) ควบคู่ไปด้วย โดยเครื่องมือ AI สามารถวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อสร้างแคมเปญพันธมิตร (Affiliate) ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมหรือความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละรายมากที่สุด ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้ชมทั่วไปให้กลายเป็นลูกค้าได้

การตลาดแบบพันธมิตรจึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่ากับต้นทุน รวมถึงช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถได้ประโยชน์จากการร่วมมือกับ Influencer ในท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละวัฒนธรรม แต่อย่างไรก็ดี ความโปร่งใสในการทำการตลาดก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ธุรกิจต่าง ๆ และตัว Influencer เองควรให้ความใส่ใจ เพื่อให้สามารถรักษาความไว้วางใจของผู้บริโภคเอาไว้ได้ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ผู้บริโภคมีความตื่นรู้ในการตรวจสอบจริยธรรมในการโฆษณาเพิ่มมากขึ้น

Share this article

กดติดตาม InnoHub

เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ