AI Farming ฟาร์มยุคใหม่ ใช้หุ่นยนต์ปลูกต้นไม้
เกษตรกรรม ถือเป็นอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของไทย ซึ่งเมื่อวิทยาการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมก็มักเปลี่ยนตาม ในอนาคตอันใกล้เทคโนโลยี AI ที่เราได้นำมาแนะนำให้รู้จักกันวันนี้ จะเปลี่ยนแปลงโลกของการเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ไปได้อย่างง่ายดาย
สืบเนื่องจากปัญหาด้านเกษตรกรรมจึงมีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สั่งการด้วย AI มาช่วยแก้ปัญหา ตัวอย่างเช่น Iron Ox ได้ใช้ AI มาดูแลผลผลิตภายในฟาร์มจำลอง ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เคลื่อนย้ายต้นอ่อน จนได้ผลผลิต ซึ่งข้อดีคือลดการสูญเสียปัจจัยการผลิต และลดต้นทุนต่างๆ เช่น แรงงาน อธิบายง่ายๆ ก็คือการนำ AI มาทำการเกษตรแทนมนุษย์นั่นเอง หรือการนำเทคโนโลยี AI มาแก้ปัญหาทางด้านวัชพืช จากสถิติในสหรัฐอเมริกา พบว่า ใน 1 ปี อุตสาหกรรมการเกษตรสูญเสียจากวัชพืช มีมูลค่าสูงถึง 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Blue River Technology ได้ทำการพัฒนา AI ที่มีชื่อว่า The See and Spray Robot เพื่อพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชได้ตรงจุด ไม่มีการกระจายไปสู่พืชอื่นๆ เป็นการลดปัญหาการกระจายตัวของสารเคมี นอกจากนี้ยังมี AI ของ Harvest CROO Robotics เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตโดยมีศักยภาพในการเก็บผลผลิตให้เกษตรกรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากหุ่นยนต์ AI แล้ว ยังมี โดรนเก็บข้อมูลเพื่อการเกษตร ของบริษัท Agribotix ที่ตรวจจับข้อมูลทางการเกษตร และนำไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Agribotix จะมีข้อมูลและประสบการณ์ในการประมวลผลพืชได้ถึง 44 ชนิด โดยมีฐานลูกค้าครอบคลุมกว่า 45 ประเทศ ซึ่งผลการประมวลผลทำให้เพิ่มผลผลิตและกำไร
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ บริษัท KingPeng ของจีน ได้พัฒนาเรือนกระจกอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เคลื่อนไหวใต้หลังคาและสมาร์ทโฟน มีระบบต่างๆ เช่น ระบบฉนวนกันความร้อน ระบบทำความร้อน ม่านเปียก ระบบพัดลมระบายความร้อน ระบบรดน้ำ ระบบพ่น และระบบชลประทาน และมีการนำเทคโนโลยี IoTs มาร่วมกับข้อมูล (Data Science) เพื่อเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิต ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ากว่าเดิม คาดการณ์สภาพอากาศและประเมินพืชที่ควรปลูกอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาด
แน่นอนว่าอุปสรรคที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับค่าแรงในประเทศต่างๆ แต่กรณีของ Iron Ox วางจุดยืนว่าเป็น Premium product หากโปรเจ็คต์สำเร็จ เกษตรกรสามารถทำฟาร์มในพื้นที่เมืองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้าง หรือพื้นที่สูงในการปลูก เป็นการเปลี่ยนวิถีการเกษตรแบบเดิมๆ ที่ต้องทำเฉพาะในชนบทไปเลยทีเดียว แบบนี้ไม่แน่ในอนาคต เราอาจได้เห็นสวนอะโวคาโดอยู่กลางกรุงเทพฯ ก็ได้ ต้องรอติดตามกันต่อไป