AI Farming – when AI grows crops

November 22, 2018

AI Farming ฟาร์มยุคใหม่ ใช้หุ่นยนต์ปลูกต้นไม้

           เกษตรกรรม ถือเป็นอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของไทย ซึ่งเมื่อวิทยาการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมก็มักเปลี่ยนตาม ในอนาคตอันใกล้เทคโนโลยี AI ที่เราได้นำมาแนะนำให้รู้จักกันวันนี้ จะเปลี่ยนแปลงโลกของการเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ไปได้อย่างง่ายดาย

           สืบเนื่องจากปัญหาด้านเกษตรกรรมจึงมีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สั่งการด้วย AI มาช่วยแก้ปัญหา ตัวอย่างเช่น Iron Ox ได้ใช้ AI มาดูแลผลผลิตภายในฟาร์มจำลอง ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เคลื่อนย้ายต้นอ่อน จนได้ผลผลิต ซึ่งข้อดีคือลดการสูญเสียปัจจัยการผลิต และลดต้นทุนต่างๆ เช่น แรงงาน อธิบายง่ายๆ ก็คือการนำ AI มาทำการเกษตรแทนมนุษย์นั่นเอง หรือการนำเทคโนโลยี AI มาแก้ปัญหาทางด้านวัชพืช จากสถิติในสหรัฐอเมริกา พบว่า ใน 1 ปี อุตสาหกรรมการเกษตรสูญเสียจากวัชพืช มีมูลค่าสูงถึง 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Blue River Technology ได้ทำการพัฒนา AI ที่มีชื่อว่า The See and Spray Robot เพื่อพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชได้ตรงจุด ไม่มีการกระจายไปสู่พืชอื่นๆ เป็นการลดปัญหาการกระจายตัวของสารเคมี นอกจากนี้ยังมี AI ของ Harvest CROO Robotics เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตโดยมีศักยภาพในการเก็บผลผลิตให้เกษตรกรได้ตลอด 24 ชั่วโมง

           นอกจากหุ่นยนต์ AI แล้ว ยังมี โดรนเก็บข้อมูลเพื่อการเกษตร ของบริษัท Agribotix ที่ตรวจจับข้อมูลทางการเกษตร และนำไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Agribotix จะมีข้อมูลและประสบการณ์ในการประมวลผลพืชได้ถึง 44 ชนิด โดยมีฐานลูกค้าครอบคลุมกว่า 45 ประเทศ ซึ่งผลการประมวลผลทำให้เพิ่มผลผลิตและกำไร
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ บริษัท KingPeng ของจีน ได้พัฒนาเรือนกระจกอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เคลื่อนไหวใต้หลังคาและสมาร์ทโฟน มีระบบต่างๆ เช่น ระบบฉนวนกันความร้อน ระบบทำความร้อน ม่านเปียก ระบบพัดลมระบายความร้อน ระบบรดน้ำ ระบบพ่น และระบบชลประทาน และมีการนำเทคโนโลยี IoTs มาร่วมกับข้อมูล (Data Science) เพื่อเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิต ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ากว่าเดิม คาดการณ์สภาพอากาศและประเมินพืชที่ควรปลูกอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาด

           แน่นอนว่าอุปสรรคที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับค่าแรงในประเทศต่างๆ แต่กรณีของ Iron Ox วางจุดยืนว่าเป็น Premium product หากโปรเจ็คต์สำเร็จ เกษตรกรสามารถทำฟาร์มในพื้นที่เมืองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้าง หรือพื้นที่สูงในการปลูก เป็นการเปลี่ยนวิถีการเกษตรแบบเดิมๆ ที่ต้องทำเฉพาะในชนบทไปเลยทีเดียว แบบนี้ไม่แน่ในอนาคต เราอาจได้เห็นสวนอะโวคาโดอยู่กลางกรุงเทพฯ ก็ได้ ต้องรอติดตามกันต่อไป

Share this article

Subscribe to InnoHub!

Stay updated and inspired

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ