สำรวจเทรนด์ธุรกิจและบริษัทสตาร์ทอัพระดับ Unicorn หน้าใหม่ประจำปี 2567

May 15, 2024

ผ่านพ้นปี 2567 กันมาเกือบครึ่งทางแล้ว InnoHub เลยขอมาอัปเดตความเป็นไปของแวดวงสตาร์ทอัพทั่วโลกให้ผู้ประกอบการชาวไทยได้ทราบกันว่าขณะนี้สถานการณ์การลงทุนเป็นอย่างไร และ อุตสาหกรรมไหนกำลังเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองบ้าง

เทรนด์การลงทุนและธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลกในปี 2567

รายงานจาก Crunchbase เว็บไซต์สื่อชั้นนำที่คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจภาคส่วนต่าง ๆ เปิดเผยว่า ภาพรวมของการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพทั่วโลกเมื่อช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ยังคงดำเนินไปอย่างติดขัด เนื่องจากนักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังในการตัดสินใจมอบเงินสนับสนุนบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประเภทของธุรกิจสตาร์ทอัพที่เฟื่องฟูมากที่สุด คือ สตาร์ทอัพระดับตั้งต้น หรือ Early Stage ซึ่งได้รับเงินลงทุนมูลค่าสูงถึง 29.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ นับเป็นตัวเลขที่สูงขึ้น 6 % เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงพลังงานสะอาด (Green Energy) เป็นกลุ่มธุรกิจที่เนื้อหอมอันดับต้น ๆ

สำหรับแวดวงสตาร์ทอัพในแถบเอเชียช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้น ในภาพรวมมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 17.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงกว่า 8% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ยกเว้นธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศจีนที่ยังสามารถรวบรวมเงินลงทุนได้มากกว่าเดิมเป็นตัวเลขสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อน ส่งผลให้ประเทศจีนกลายเป็นตลาดของธุรกิจสตาร์ทอัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย โดยมีบริษัทชั้นนำเช่น กลุ่ม Alibaba และ ธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศจีน หรือ China Development Bank (CDB) เป็นผู้สนับสนุนหลัก

อีกหนึ่งคำถามสำคัญคือแล้วธุรกิจสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมใดที่นักลงทุนอยากสนับสนุน และมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคตมากที่สุด แม้ว่าคำตอบจะยังคงเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ทางนักวิเคราะห์ก็เตือนไว้เช่นกันว่านวัตกรรมดังกล่าวอาจเริ่มได้รับความสนใจน้อยลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงความท้าทายเรื่องกฎระเบียบและการกำกับดูแล และมองว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Google, Nvidia และ Microsoft ครอบครองความได้เปรียบในหลาย ๆ มิติเหนือสตาร์ทอัพขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน ปริมาณข้อมูลขนาดมหาศาลที่ต้องใช้พัฒนา AI รวมไปถึงพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ดังนั้นสตาร์ทอัพจึงควรทดลองเข้าไปพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมในอุุตสาหกรรมอื่น ๆ ด้วย เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) หุ่นยนต์ (Robotics) และการสำรวจอวกาศ (Space Exploration)

3 สตาร์ทอัพ Unicorn หน้าใหม่ประจำปี 2567 ที่ควรจับตามอง

แม้ว่าสถานการณ์การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลกจะไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่นักในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ก็ยังมีบริษัทที่สามารถพัฒนานวัตกรรมเจ๋ง ๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ทอัพระดับ Unicorn ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้เช่นกัน ไปดูกันว่าทั้ง 3 บริษัทที่ InnoHub คัดเลือกมาในวันนี้มีอะไรบ้าง

1. Uzum : สตาร์ทอัพผู้พัฒนาบริการ E-Commerce การทำธุรกรรม และจัดส่งอาหาร รายนี้สามารถรวบรวมเงินทุนได้สูงถึง 114 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกลายเป็นสตาร์ทอัพ Unicorn รายแรกของประเทศอุซเบกิสถานในปี 2567 โดยมี Djasur Djumaev เป็นผู้บริหารและพัฒนาให้ Uzum มีแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์คล้ายกับ Amazon ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาค้นหาสินค้าหลากหลายประเภท ชำระเงินอย่างสะดวกสบายแบบดิจิทัล แล้วรอรับพัสดุมาจัดส่งให้ถึงหน้าประตูบ้านนั่นเอง

ภาพจาก: News Central Asia

2. Moonshot AI : สตาร์ทอัพจากประเทศจีน Moonshot AI ก่อตั้งมาได้เพียง 1 ปีเท่านั้นแต่ก็ถูกประเมินให้มีมูลค่าสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังสามารถระดมทุนในซีรีย์ B ได้เป็นเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมี Alibaba กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และ Sequoia Capital China บริษัท Venture Capital ชั้นนำ เป็นผู้สนับสนุนหลัก ผลิตภัณฑ์ของ Moonshot AI คือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ด้านโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่เชี่ยวชาญในการรับข้อความคำสั่งและข้อมูลที่มีขนาดยาวเป็นพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพจาก: Moonshot AI

3. Figure : สตาร์ทอัพระดับ Unicorn หน้าใหม่ของปี 2567 บริษัทสุดท้ายที่เราหยิบมาฝากกันวันนี้ คือ Figure จากประเทศสหรัฐอเมริกาผู้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยเป็นกำลังเสริมหากอุตสาหกรรมบางส่วนขาดแคลนแรงงาน เช่น การผลิตสินค้าในโรงงาน การขนส่งและบริหารจัดการคลังเก็บของ เป็นต้น โดยเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา Figure สามารถระดมทุนได้ 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนรายใหญ่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและบริหาร Amazon, Nvidia ผู้ผลิตชิปแนวหน้าของโลก รวมถึง Microsoft บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ จนปัจจุบันสตาร์ทอัพแห่งนี้มีมูลค่ารวมแล้วมากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาพจาก: Figure

แม้ว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ พฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงเทรนด์และค่านิยมของสังคมจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เสมอ และดูเหมือนจะยิ่งรวดเร็วขึ้นเป็นพิเศษในยุคปัจจุบัน แต่หากผู้ประกอบการหมั่นติดตามข่าวสาร เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ต่อเวลา ก็จะสามารถพาธุรกิจของตัวเองให้ประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน

Share this article

Subscribe to InnoHub!

Stay updated and inspired

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ