ส่องกล้องมอง AI ในภาคอุตสาหกรรม ปี 2019
หากเอ่ยถึง AI เราได้รู้จักและเห็นการนำมาใช้กับหลายภาคส่วนของสังคมมากขึ้นตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น ส่งผลให้หลายองค์กรเกิดการตื่นตัว คิดหากลยุทธ์นำ AI มาปรับใช้เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองลูกค้า เรียกได้ว่านี่คือยุครุ่งเรืองของ AI เลยก็ว่าได้ โดยได้พลิกวงการอุตสาหกรรมและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ให้สะดวกสบายมากขึ้น อันเนื่องมาจากความชาญฉลาดในการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง (Deep Learning) แล้ว ปี 2019 นี้ มาจับตามอง AI ในภาคอุตสาหกรรม จะมีการเติบโตไปในทิศทางใดบ้าง ตามมาดูกัน
ในอุตสาหกรรมรีเทล AI จะกลายเป็น Smarter Retail Recommendations ผู้ให้คำแนะนำในการซื้อสินค้าในร้านค้าต่างๆ โดยลูกค้าจะได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการ ส่วนผู้ขายก็จะได้ยอดขายเพิ่มขึ้น จากการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าออนไลน์ไม่เพียงแต่แนะนำสินค้าจากประวัติการซื้อ แต่จะพัฒนาไปอีกขั้นใช้ AI ประมวลผลจากความรู้สึก ใช้อัลกอริธึมในการวิเคราะห์ข้อมูล คาดการณ์และประเมินผลลัพท์ออกมา ดังจะเห็นได้จาก 1800Flowers ร้านค้าปลีกดอกไม้และของขวัญจากอเมริกา เป็นผู้ริเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ชื่อ “GWYN” เมื่อปี 2016 โดย GWYN ย่อมาจาก Gifts When You Need เป็นแชทบอทที่พัฒนาโดยบริษัท IBM Watson มาช่วยในการเลือกของขวัญซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นกิจกรรมที่เป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง โดย GWYN สามารถโต้ตอบและแนะนำสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้า
ส่วนภาคธุรกิจ AI จะอำนวยความสะดวกในหลายมิติของชีวิต อีกหน้าที่สำคัญจากนี้ คือการเป็นตำรวจไซเบอร์ คอยตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามบนอินเตอร์เน็ตได้ทันที เนื่องจากข้อมูลของแต่ละองค์กรนั้นมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของการเจาะระบบข้อมูลเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ จึงเป็นที่มาของการพัฒนา AI เพื่อป้องกันภัยเหล่านี้ กรณีศึกษาของ Darktrace บริษัทผู้นำด้าน Cyber Security ได้พัฒนาเทคโนโลยี Enterprise Immune System โดยมีแนวคิดเดียวกับระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ที่สร้างขึ้นเอง ทำหน้าที่ในการป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ซึ่ง Darktrace ใช้การเรียนรู้และการคำนวณของ AI เพื่อทำให้เครือข่ายสามารถปกป้องข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ มีการตอบสนองได้ไว ทำงานโดยไม่ต้องรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการโจมตี และไม่ต้องอาศัยข้อมูลที่มีประวัติการถูกเจาะระบบมาก่อน
ทางด้านแวดวงอสังหาริมทรัพย์ มีการพัฒนาและนำเทคโนโลยี AI ปรับใช้เรื่อยมา เราจะเห็นได้จากรูปแบบบ้านหรือคอนโดที่เป็น Smart Home แต่จากนี้ AI จะเข้ามามีบทบาททั้งการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์กันแล้ว จากการคาดการณ์ของ Bill Packer จาก Bank of America มองว่าภายใน 7 ปีสมาร์ทโฟนจะเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้น โดยนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการให้คำแนะนำในการซื้อบ้านไปจนถึงการหาสถาบันเงินกู้
ทางด้าน PadScouts สตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์จากชิคาโก ได้เปิดตัว SOPHIE เครื่องมือ AI ที่ใช้ Big Data ในการทำนายแนวโน้มที่คนจะซื้อหรือขายบ้าน จากสมมติฐานเหตุการณ์ครั้งสำคัญในชีวิต เช่น การแต่งงาน หรือการมีสมาชิกใหม่ครอบครัว ที่เป็นแรงกระตุ้นให้คนย้ายที่อยู่ โดย PadScouts คาดว่าเครื่องมือ AI นี้จะส่งถึงมือตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศเร็วๆ นี้
จะเห็นได้ว่าปี 2019 นี้ AI จะทำงานร่วมกับมนุษย์มากขึ้นในขณะที่บางเทคโนโลยีอาจมาทำงานแทนมนุษย์กันเลยทีเดียว AI จะมาช่วยส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมีการแข่งขันกันสูงขึ้น โดยองค์กรจะต้องมีการเทรนนิ่งพนักงานให้ทำงานร่วมกับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมล้ำๆ อีกในอนาคต
เรียนรู้เพิ่มเติม >> AI Robot ครูผู้ช่วยคนใหม่ ทำอะไรได้บ้าง?
