สตาร์ทอัพไทยดาวรุ่งในอุตสาหกรรมการเงิน FinTech ที่น่าจับตามองประจำปี 2024

กุมภาพันธ์ 9, 2024

ขึ้นปีใหม่ 2024 แล้วทั้งที InnoHub ไม่ลืมที่จะมาเล่าถึงความเป็นไปและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการเงินให้ทุกคนได้อัปเดตกันว่า ธุรกิจ Financial Technology ในยุคดิจิทัลของประเทศไทยกำลังเดินไปสู่ทิศทางไหน  และจะมีสตาร์ทอัพ FinTech บริษัทใดที่น่าจับตามองในปีนี้บ้าง

อุตสาหกรรม FinTech ของไทยช่วงนี้มีแนวโน้มอย่างไร

ธุรกิจการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย หรือ Financial Technology (FinTech) นับเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างแข็งแรงและมีความก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศชั้นนำอื่น ๆ ของโลก โดยข้อมูลจากปี 2022 เผยว่ามูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมนี้สูงถึงประมาณ 4 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ปริมาณการทำธุรกรรมผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปีจนสูงถึงราว 2 หมื่นล้านบาทในปีเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น รายงานประจำปี 2022 จาก ACI Worldwide บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการชำระเงินระดับโลก ยังยกให้ประเทศไทยครองอันดับ 3 ด้านปริมาณการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์สูงที่สุดในโลก และช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคคิดเป็นมูลค่าถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

เมื่อหันมาเจาะลึกถึงธุรกิจรายย่อยหรือสตารท์อัพด้าน FinTech ของประเทศไทยแล้ว จะเห็นได้ว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนปัจจุบันมีจำนวนมากถึงเกือบ 300 แห่งเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ FinTech ของไทยยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย โดยล่าสุดทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกใบอนุญาตการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ให้แล้วเสร็จภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญให้ธุรกิจรายย่อยนอกเหนือจากสถาบันการเงินรายใหญ่ ได้ลองเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมนี้และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกันในบริการการเงินหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การลงทุน การประกันภัย และ การออกสินเชื่อ เป็นต้น

สตาร์ทอัพไทยสาย FinTech ที่น่าสนใจในปี 2024

  1. Ascend Money

Ascend Money สตาร์ทอัพด้าน FinTech ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ C.P. Group ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2013 โดยมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนชื่อว่า TrueMoney ที่นำเสนอบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยลูกค้าสามารถฝากเงินเข้ามาเพื่อนำไปซื้อของแบบไม่ต้องพกเงินสดในร้านสะดวกซื้อยอดนิยมอย่าง 7-11 รวมถึงยังใช้จ่ายบิลค่าไฟฟ้า ลงทุนในกองทุนรวม หรือแม้กระทั่งขอสินเชื่อ ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน TrueMoney ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทยโดยมีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 27 ล้านราย

Ascend Money เคยได้รับเงินลงทุน Series C มูลค่าสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึง Bow Wave Capital Management และ Ant Group บริษัท FinTech ผู้ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจรรายใหญ่และยังเป็นบริษัทย่อยของ Alibaba  ธุรกิจแพลตฟอร์ม E-commerce ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนอีกด้วย ความสำเร็จด้านการระดมทุนในครั้งนี้ส่งผลให้เมื่อปี 2021 Ascend Money กลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และล่าสุดยังเตรียมที่จะยื่นขอจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank พร้อมตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้งานให้มีจำนวนเกินกว่า 50% ของประชากรไทยภายในปี 2025

  1. Sunday

Sunday คือ สตาร์ทอัพ FinTech ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 โดยเป็นผู้พัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภทโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงบริหารจัดการ ยื่นเคลม และตรวจสอบสถานะการอนุมัติผ่านทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว นอกจากนี้ Sunday ยังมีลูกค้าประเภทองค์กรชั้นนำหลากหลายแห่งในไทยที่เลือกมอบสวัสดิการด้านประกันสุขภาพให้กับพนักงานผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะนี้อีกด้วย

ปัจจุบัน บริษัท Sunday เติบโตจากเดิมอย่างก้าวกระโดดและมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า โดยล่าสุดในปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพรายนี้มีลูกค้ามาใช้บริการประกันภัยแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 1.6 ล้านราย นอกจากนี้ Sunday ยังประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series B จากบริษัทชื่อดังระดับโลกหลายแห่ง เช่น Tencent บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศจีน กลุ่มบริษัทร่วมทุน (VC) ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Vertex Growth และ Aflac Ventures คิดเป็นมูลค่ารวมแล้วกว่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1,500 ล้านบาท

  1. Roojai

รู้ใจ หรือ Roojai Insurance คือสตาร์ทอัพด้านประกันภัย (InsureTech) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 โดยพัฒนาแพลตฟอร์มรูปแบบแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อและบริหารจัดการประกันหลากหลายประเภท โดยเฉพาะประกันรถยนต์ ของตัวเองได้ทางออนไลน์ รวมถึงสามารถค้นหาที่ตั้งของศูนย์ซ่อมบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย นอกจากนี้ Roojai ยังนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละแบบให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า ล่าสุด สตาร์ทอัพดาวรุ่งรายนี้ได้เข้าซื้อกิจการของ FWD ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำของไทย เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด และตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนลูกค้าให้ถึง 350,000 รายภายในปี ค.ศ. 2025  พร้อมขึ้นเป็นธุรกิจประกันภัยชั้นนำที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกของอุตสาหกรรมให้ได้

Share this article

กดติดตาม InnoHub

เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ