ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหนึ่งที่ทำให้บางสตาร์ทอัพเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่บางรายกลับล้มเหลว คือการเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก “หน้าต่างเทคโนโลยี” หรือ Technology Window แนวคิดที่แม้แต่ สตีฟ จ็อบส์ นักธุรกิจผู้สร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนโลกก็ยังนำมาใช้
หน้าต่างเทคโนโลยีคือช่วงเวลาที่เทคโนโลยีใหม่เปิดโอกาสให้ธุรกิจหรือสตาร์ทอัพเจริญเติบโตหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ แต่โอกาสนี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป หากพลาดช่วงเวลาสำคัญนี้ อุตสาหกรรมจะเริ่มอยู่ตัวและผู้เล่นหน้าใหม่อาจเข้ามาแข่งขันได้ยากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วง พ.ศ. 2373 จนถึง 2413 ในยุคที่รางรถไฟกำลังบูมในสหรัฐอเมริกา มีธุรกิจที่พุ่งทะยานเพราะเห็นโอกาสในหน้าต่างนี้ ส่วนด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ หน้าต่างเทคโนโลยีเปิดในช่วง พ.ศ. 2442 ถึง 2468 ก่อนตลาดจะเริ่มนิ่ง และเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อประมาณ พ.ศ. 2546 เพราะเกิดเทคโนโลยีรถไฟฟ้าขึ้นมา
รูปแบบของหน้าต่างเทคโนโลยี
- เทคโนโลยีถูกคิดค้นขึ้น
ช่วงแรกมักเริ่มจากการที่เทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นในวงแคบ เช่น จากนักวิจัยหรือกลุ่มผู้ที่มีความสนใจเฉพาะด้าน - เริ่มเป็นกระแส
ผู้ใช้งานกลุ่มแรก (Early Adopters) เริ่มได้รับความสนใจและสถานะทางสังคมจากการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ทำให้เทคโนโลยีเริ่มเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง - ช่วงเผยแพร่ความรู้
เมื่อคนเริ่มมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ก็จะเริ่มเรียนรู้และค้นหาวิธีการนำไปใช้ - ช่วงแห่งการแข่งขัน
นักธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ เริ่มเข้าสู่ตลาดอย่างจริงจัง มีการลงทุนพัฒนา และมองหาโอกาสสร้างนวัตกรรม - บริษัทใหญ่ลงสนาม
บริษัทใหญ่ที่มีเครือข่ายและทรัพยากรมากกว่าเริ่มเข้ามาสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ และครองส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ขึ้น - หน้าต่างปิด (เกือบ 90%)
เมื่อเทคโนโลยีเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ตลาดจะถูกครอบครองโดยผู้เล่นรายใหญ่ ทำให้สตาร์ทอัพรายใหม่เจาะเข้ามาได้ยาก
ตัวอย่างความสำเร็จจากการจับจัวหวะหน้าต่างเทคโนโลยี
- Tesla กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
Tesla เป็นตัวอย่างของการเข้าสู่ตลาดในช่วงที่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเป็นที่จับตามองใน พ.ศ. 2546 แม้จะมีคู่แข่งอยู่จำนวนมาก แต่ Tesla เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สามารถเข้าสู่ตลาดได้ทันและสร้างจุดเด่นจนกลายเป็นผู้นำในวงการ - AWS กับยุค Cloud Computing
เมื่อองค์กรเริ่มเปลี่ยนจากระบบ IT แบบเดิมไปสู่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ AWS เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายแรกที่มองเห็นโอกาสและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการ - Apple กับการปฏิวัติสมาร์ตโฟน
แม้ Apple จะไม่ได้เป็นเจ้าแรกที่ผลิตโทรศัพท์มือถือ แต่ Apple สามารถคว้าโอกาสขณะในช่วงที่หน้าจอสัมผัสและระบบแอปพลิเคชันเริ่มเข้าที่เข้าทาง ซึ่งผลลัพธ์ก็คือการสร้าง iPhone ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้
ควรลงสนามตอนไหน?
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การรู้ว่าหน้าต่างเทคโนโลยีเปิดและปิดตอนไหน แต่คือการประเมินลักษณะและกลยุทธ์ของธุรกิจเพื่อหาช่วงที่เหมาะสม โอกาสครั้งใหญ่ที่สุดอาจเป็นช่วงที่ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่เริ่มชัดเจน มีบทเรียนจากธุรกิจกลุ่มแรก ๆ และยังพอมีพื้นที่ให้สร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าธุรกิจที่เข้ามาหลังจากหน้าต่างปิดไปแล้วจะต้องล้มเหลวทุกราย เมื่อหน้าต่างเทคโนโลยีเข้าสู่จุดอิ่มตัว นักธุรกิจที่เน้นการวิเคราะห์เชิงลึก การจัดการทรัพยากร หรือมุ่งเน้นด้านการลดต้นทุน ก็อาจเข้ามาในตลาดเพื่อเข้าซื้อกิจการอื่น ปรับปรุงกระบวนการทำงานได้เช่นกัน
ดังนั้น การเข้าใจและใช้ประโยชน์จากหน้าต่างเทคโนโลยีไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของการรีบเร่งไขว่คว้าโอกาสเอาไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดและการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา ธุรกิจที่สามารถมองเห็นและตอบสนองต่อโอกาสเหล่านี้ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมก็จะสามารถแข่งขันในตลาดและประสบความสำเร็จได้