NFT สินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่ ที่ช่วยเร่งการเติบโตของนวัตกรรมในธุรกิจ FinTech

สิงหาคม 2, 2021

NFT สินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่ ที่ช่วยเร่งการเติบโตของนวัตกรรมในธุรกิจ FinTech

NFT หรือ Non-Fungible Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถิติจาก Statista ระบุว่า ในปี 2563 มูลค่าของการทำธุรกรรมด้วย NFT เติบโตขึ้นจากปี พ.ศ. 2561 ถึงเกือบสิบเท่า ทำให้ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าจับตามองอย่างมากในปัจจุบัน

NFT คืออะไร 

Non-Fungible Token (NFT) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) โดยสามารถนำไฟล์ดิจิทัลอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ดนตรี วิดีโอ หรือแม้กระทั่งของเล่น ของสะสม อสังหาริมทรัพย์  มาสร้างรหัสเฉพาะตัวที่เปรียบเสมือนการจดลิขสิทธิ์สินค้า 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ ผลงานนั้นมีอยู่เพียงชิ้นเดียวบนโลก ไม่สามารถนำสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ต่างจากสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ เช่น บิตคอยน์ (BTC) ดอดจ์คอยน์ (DOGE) ที่เป็น Fungible Token ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนกับเหรียญดิจิทัลหรือสิ่งอื่นที่มีมูลค่าเทียบเท่ากันได้ 

จากรายงาน Ethereum DeFi ปี 2020 ของ ConsenSys พบว่า มีการซื้อขายผลงาน NFT ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นจำนวนมากถึง 53,663 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1,600 ล้านบาท (42,720 ETH) โดย NFT เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างเนื่องจากมีผู้นำผลงานของกราฟิกดีไซน์เนอร์ชื่อดังอย่าง Mike Winkelmann ออกมาประมูลแบบ NFT ด้วยมูลค่าสูงถึง 2,100 ล้านบาทโดยประมาณ 

NFT กับการพัฒนาธุรกิจ FinTech และ DeFi 

เทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้เกิดการให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอาศัยตัวกลางอย่างสถาบันการเงินในการทำธุรกรรมอีกต่อไป ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือ Decentralized Finance (DeFi) โดยมักจะทำข้อตกลงกันด้วยสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมได้

NFT สามารถดึงศักยภาพของ DeFi มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้ NFT และ DeFi ร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ DeFi เป็นตัวกลางในการซื้อขายงานศิลปะ NFT การออก IPO หรือกระตุ้นให้เกิดการระดมทุนและก่อตั้งสตาร์ทอัพด้าน FinTech หลายแห่ง เช่น บริษัท Teller Finance ที่นำ NFT มาเพิ่มสภาพคล่องให้กับการกู้ยืมเงินบนระบบ DeFi ในแพลตฟอร์มของตัวเอง

อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจในวงการเกม คือ โปรเจกต์ Drops จากผู้สร้างเกมส์ NFT Node Runners Drops ที่ได้เงินระดมทุนทะลุ 31 ล้านบาทภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยโปรเจกต์นี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถใช้ NFT ของตนเองในการเข้าร่วมลงทุนและได้รับ dPoints เป็นการตอบแทนตามมูลค่าของ NFT ที่นำมาใช้ 

นอกจากนี้ Drops ยังได้พัฒนาระบบโปรโตคอล dNFT ซึ่งจะช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของ NFT สามารถกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลได้แบบ Decentralized โดยที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนกับ NFT ที่ตัวเองถือครองอยู่จริง ๆ จะเห็นได้ว่า NFT มีส่วนช่วยในการสร้างสภาพคล่องและผลักดันให้มีการใช้งานเทคโนโลยี DeFi มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยดึงดูดนักลงทุนและเปิดโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ ในอนาคต

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจลงทุนใน NFT

กระแสของ NFT ทำให้นักลงทุนทั้งในและนอกวงการคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ตื่นตัวเป็นอย่างมาก แม้แต่นักลงทุนในประเทศไทยเองก็ให้ความสนใจกับเหรียญดิจิทัลชนิดนี้เช่นกัน แต่เนื่องจากเทคโนโลยีนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน การศึกษาข้อมูลให้ละเอียดจะช่วยในการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น InnoHub จึงรวบรวมข้อดีและข้อเสียมาให้แล้วดังนี้

ข้อดี

  • สร้างความตื่นตัวในเทคโนโลยีบล็อกเชนและทำให้ผู้คนมากมายที่อาจไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อนได้ลองหันมาศึกษานวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น
  • เป็นช่องทางในการสร้างชื่อเสียงและรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับศิลปินจำนวนมากรวมถึงธุรกิจในหลากหลายวงการ โดยแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ชื่อดังระดับโลก เช่น https://opensea.io/assets ส่วนประเทศไทยจะนิยมนำมาประกาศขายบนกลุ่มเฟซบุ๊ก NFT Marketplace Thailand 
  • แปลงสิ่งต่าง ๆ ให้กลายเป็นของสะสมที่มีเพียงชิ้นเดียวบนโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าดิจิทัลอย่างรูปวาดหรือการ์ดในเกมออนไลน์ หรือแม้กระทั่งบ้านที่อยู่ห่างไปอีกซีกโลกหนึ่งก็ตาม

ข้อเสีย

  • คุณค่าของผลงาน NFT ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล คล้ายกับศิลปะหรือของสะสมนั่นเอง ดังนั้นปัจจุบัน NFT ที่มีมูลค่าสูงจึงมีแต่ศิลปินหรือคนดังที่สามารถสร้างรายได้จากเทคโนโลยีชนิดนี้ด้วยชื่อเสียงของตนเอง
  • สำหรับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลการลงทุนสร้างแพลตฟอร์มแบบ DeFi เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT มีความยุ่งยากซับซ้อนและอาจกินเวลานาน
  • เทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT ยังคงเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก และมีเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจระบบอาจถูกหลอกได้
  • การซื้อขาย NFT ต้องใช้สกุลเงินดิจิทัล ดังนั้นผู้ที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้จึงต้องแบกรับความเสี่ยงจากความผันผวนระดับสูงของคริปโทเคอร์เรนซีด้วย

Share this article

กดติดตาม InnoHub

เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ

เรานำข้อมูลมาใช้เพื่อการส่งมอบคอนเทนต์และบริการอย่างเหมาะสม เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy และคลิกสมัครเพื่อดำเนินการต่อ